E-Commerce กับแนวทางเลือกหนึ่งสำหรับสินค้าขายทางเว็บไซต์

caritas

ปัจจุบันกระแสในด้านการเปิดเว็บไซต์ในการขายสินค้าผ่านเว็บไซต์หรือ E-Commerce ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย เนื่องจากการขายสินค้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเริ่มที่จะสะดวกมายิ่งขึ้น อีกทั้งยังเริ่มต้นด้วยการลงทุนที่ไม่สูงมากนัก ทำให้การขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นทำให้มีการแข่งขันที่รุนแรง เช่น การตัดราคาคู่แข่งทางการตลาด รวมไปจนถึงการจัดโปรโมชั่นลดราคา ดังนั้นถ้าหากใครที่กำลังจะตั้งเว็บไซต์ที่จะให้บริการทางด้าน e-Commerce จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆ หรือมองหาตลาดใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสและรายได้ให้กับตนเอง นอกจากนี้ตลาดในทางด้านแฟชั่นยังไม่ค่อยที่จะมีสินค้าทางด้านนี้จำหน่ายออนไลน์มากนัก ขณะเดียวกันช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นทางออนไลน์นั้นยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงจนเกินไป

สำหรับตลาดทางด้านแฟชั่น e-Commerce จะมีการเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามกระแสความนิยมที่ผ่านมา แต่ในหลาย ๆ บริษัทก็มักจะเจอกับปัญหาอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าที่เป็นปัญหาหลักๆรวมไปถึงปัญหาทางด้านบริการหลังการขายที่ไม่อาจจะชนะใจลูกค้าได้รวมไปจนถึงการเปลี่ยนสินค้าอยู่เป็นประจำ เนื่องจากการซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ ไม่สามารถที่จะทดลองใส่ได้เหมือนกับการจับจ่ายตามห้างสรรพสินค้า ฉะนั้นแล้วการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ตควรที่จะมีหลักประกันโดยสามารถยืนยันได้ว่าเว็บไซต์นั้นมีความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้ ทำให้ผู้ใช้บริการกล้าที่จะใช้บริการ เพราะ e-Commerce ส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้ การชำระเงินผ่านระบบออนไลน์เพราะสะดวกสบายกว่าการชำระเงินผ่านระบบการโอน

ดังนั้นการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ถือได้ว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้เกิดการซื้อขาย ฉะนั้นแล้วผู้ให้บริการจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ และที่สำคัญผู้ใช้บริการทั้งหลายก็ควรที่จะสังเกตด้วยว่าเว็บไซต์ดังกล่าวสามารถที่จะป้องกันข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลเกี่ยวกับการเงินของตนเองได้หรือไม่และควรที่จะอ่านรายละเอียดต่าง ๆ บนเว็บไซต์ให้ครบถ้วนก่อนทำการชำระเงินทุกครั้งเพราะนั่นถือได้ว่าเป็นกฎระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง ทำให้มั่นใจได้ว่าการสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์นั้นเป็นผลดีสำหรับตนเองได้อีกด้วย

เคล็ดลับในการทำธุรกิจออนไลน์อย่างไรให้ได้ผล


ยุคนี้สมัยนี้ เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยนะครับว่าเป็น ยุคเฟื่องฟูของ E-Commerce หรือ การทำธุรกิจออนไลน์ จะสังเกตได้ว่าหลายๆเว็บไซต์ในโลกนี้มีการขายสินค้าออนไลน์อยู่เป็นจำนวนมาก นั่นเป็นเพราะการเปิดร้านขายสินค้าออนไลน์ทำได้ง่าย และไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนมาก การเปิดร้านค้าออนไลน์กับไทยอีเพย์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีของผู้ที่ต้องการความแตกต่างจากร้านค้าออนไลน์แบบเดิมๆ ด้วยรูปแบบที่แปลกตา ฟังก์ชั่นที่สมบูรณ์แบบ และการให้บริการที่แสนประทับใจ ทำให้ผู้ขายเลือกเปิดร้านค้าออนไลน์กับไทยอีเพย์เป็นจำนวนมาก แนะนำรายละเอียดของร้านค้าออนไลน์แต่อย่างใด สิ่งที่ต้องการนำเสนอในวันนี้ก็คือ “เคล็ดลับ 5 ต้อง” สู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์ เรามาเริ่มต้นหนทางสุ่ความสำเร็จกัน

ข้อ1 ต้องมีความตั้งใจในการทำธุรกิจ
สิ่งแรกของการเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าชนิดใดก็แล้วแต่ คือ ความตั้งใจจริงของผู้ขายครับ ผู้ขายหรือเจ้าของร้านออนไลน์นั้น จำเป็นต้องสละเวลาในการอัพเดตข้อมูลสินค้า ตกแต่งเว็บไซต์ ตลอดไปจนคัดสรรสินค้าเพื่อนำมาขาย และต้องไม่เบื่อหน่ายหรือล้มเลิกกลางคัน ไม่เช่นนั้นแล้วคุณจะไม่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์แน่นอน

ข้อ2 ต้องกำหนดสินค้าและกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
การกำหนดสินค้าและกลุ่มเป้าหมายในการขายนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นเดียวกันผู้ขายต้องทราบก่อนว่าจะขายอะไร ให้กับใคร อย่าได้ขายสะเปะสะปะโดยไม่ได้ศึกษากลุ่มเป้าหมายเชียวนะครับเพราะนั่นจะหมายถึง “หายนะ” เช่น หากต้องการขายเสื้อผ้า ก็ให้เน้นขายเสื้อผ้าไปก่อนและค่อยขยับขยายขายสินค้าอื่นๆต่อไป อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะเอากล้องถ่ายรูปมาขายร่วมกัน ไม่ผ่าน ส่วนกลุ่มเป้าหมาย ก็ให้เจาะจงในกลุ่มแคบๆก่อน เช่น กลุ่มนักเรียนนักศึกษา กลุ่มหนุ่มสาวทำงาน หรือกลุ่มหนุ่มสาววัยทองก็ว่ากันไป

ข้อ3 ต้องมีเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
คงไม่มีลูกค้าคนไหนที่อยากจะเข้ามาสั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าออนไลน์ที่ดูกะโหลกกะลาหรอกนะครับ นั่นเป็นเพราะกลัวโดนเชิดเงินเอาง่ายๆ ผู้ขายจำเป็นต้องมีเว็บไซต์ที่ดู Professional ใช้งานง่าย ดูสะอาดตา ไม่ใช่เต็มไปด้วยแบนเนอร์โฆษณาขายไม้จิ้มฟันยันเรือรบ กว่าจะหาสินค้าที่ต้องการเจอ ก็ปวดกระบอกตากันพอดี นอกจากนี้ยังต้องมีรูปภาพของสินค้าจริง มีข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน อย่าลืมว่าข้อมูลของผู้ขายก็ต้องเป็นความจริงด้วยนะครับ และหากมีระบบการชำระที่หลากหลาย เช่น ATM หรือ ชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเครดิตด้วยแล้ว จะทำให้เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ซื้อเป็นอย่างมาก

ข้อ4 ต้องมีการประชาสัมพันธ์ที่ครอบคลุม
กลยุทธ์สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การประชาสัมพันธ์ร้านค้าออนไลน์ของคุณให้เป็นที่รู้จัก ไม่ว่าจะประชาสัมพันธ์ทาง facebbok twitter หรือแม้แต่ตามเสาไฟฟ้าก็ดี วิธีการต่างๆนิ้จะช่วยให้คุณเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายของคุณได้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังต้องมีสินค้าโปรโมชั่นด้วยเพื่อช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูค้าให้เร็วขึ้น ทั้ง ลด แลก แจก แถม งัดวิธีไหนมาหลอกล่อลูกค้าได้ จงงัดออกมาให้หมด

ข้อ5 ต้องมีการบริการที่ดี
การบริการที่ดี ผู้ขายหลายๆคนมักมองข้ามเรื่องการบริการและคิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการขายสินค้าออนไลน์คือการทำเว็บไซต์และอัพโหลดสินค้า แต่แท้จริงแล้วการบริการนี่แหละครับ ที่จะทำให้ลูกค้าเข้ามาแวะเวียนเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณได้มากที่สุด ผู้ขายต้องมีความจริงใจต่อลูกค้า และต้องทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดี ผู้ขายต้องทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีคุณเป็นที่พึ่ง ให้เค้ารู้สึกว่าเข้ามาซื้อแล้ว อยากเข้ามาซื้ออีกในครั้งต่อๆไป และเมื่อคุณมีฐานลูกค้าประจำมากมายแล้ว คุณสามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็น Community ย่อมได้เลย เพื่อใช้ในการเลือกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ และช่วยเพิ่มยอดขายให้คุณอย่างได้ผลจริงๆ

เคล็ดลับ 5 ต้องนี้ช่วยทำให้ผู้ขายประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์ได้จริง

E-Commerce ยังเป็นช่องทางใหม่สำหรับผู้ประกอบการ ช่วยสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการค้าขาย


ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ กระแสอินเตอร์เน็ต ทำให้คนผู้ในโลกที่แตกต่าง กลับมีความใกล้ชิดกันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน มีวิถีชีวิตและพฤติกรรมไม่ต่างกันมากมายอย่างในอดีต ในอนาคต E-Commerce จะเข้ามาพลิกโฉมทางการค้าและเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของเรา และห้างสรรพสินค้าอาจจะไม่มีความจำเป็นแล้วเพราะต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่จะหันมาใช้ห้างสรรพสินค้า E-Commerce ซึ่งกำลังเป็นที่ตื่นตัวกันอย่างมากในอเมริกา ดังนั้น เมื่อ E-Commerce มีบทบาทมากขนาดนี้ เราจะมองข้ามเสียไม่ได้

ประโยชน์จาก E-Commerce
สินค้าที่ต้องการจำหน่ายผ่านทางอินเตอร์เน็ตจะเป็นสินค้าที่รู้จักของผู้ซื้ออยู่แล้ว หรือสินค้าขายปลีกทั่วๆ ไป ที่ลูกค้าเลือกซื้อได้จากทุกมุมโลก เพียงแต่คลิกเม้าท์เท่านั้น เช่น ผู้จำหน่ายหนังสือ ของเล่นอุปกรณ์ไฟฟ้า สินค้าที่สะดวกในการขนส่ง เช่น ดอกไม้ประดิษฐ์ สินค้าส่งออกที่มีจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว สินค้าที่มีเอกลักษณ์ของไทย เช่นผ้าไหม สินค้าหัตถกรรมเซรามิค เครื่องประดับ ซึ่งใช้ E-Commerce จะประหยัดกว่าการทำธุรกิจแบบเดิม ที่ต้องส่งแคตาล๊อกไปให้ลูกค้าหรือไปเช่าบู๊ทในงานแสดงสินค้าในประเทศต่างค่าใช้จ่ายสูงมาก ถ้าสร้างเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต ทำเป็นบูทถาวรที่ลูกค้าเข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสินค้าที่สามารถส่งมอบทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เช่น เพลง วิดีโอเกม ซีดีรอม เมื่อลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยก็กาวน์โหลดสินค้าเหล่านั้นเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ของตัวเองที่เชื่อมต่อกันกับอินเตอร์เน็ตหรือธุรกิจที่มีบริการขนส่งสินค้าของตนเองอยู่แล้ว เช่น ร้านเบเกอรี่ ร้านดอกไม้ ซึ่งลูกค้าอยู่ต่างประเทศสามารถส่งสินค้าถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ หรือ เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น จองตั๋วเรือบิน จองแพ็คเกจทัวร์ จองโรงแรม โดยผ่านระบบออนไลน์ เป็นต้น

ความปลอดภัย หัวใจสำคัญของ E-Commerce
ธุรกิจ E-Commerce ในปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่ต้องชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ทั้งสิ้น ดังนั้นความปลอดภัยในการชำระเงิน จึงถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการซื้อขายออนไลน์ ทุกเว็บไซต์ควรจะมีระบบที่ไว้วางใจได้ ให้ลูกค้าหมดห่วงกับการชำระเงิน ปัจจุบัน มีการนำระบบ การชำระเงิน ผ่านบัตรเครดิตมาใช้ ซึ่งได้รับความนิยมจากทั้ง ผู้ซื้อ และผู้ขาย เพราะถือว่า เป็นระบบที่ได้รับ ความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายในประเทศ หรือ ต่างประเทศก็ตาม หรือระบบการโอนเงินออนไลน์ผ่าน OTP (One Time Password) หรือระบบการใส่รหัสผ่านแบบครั้งเดียว ซึ่งต้องใช้เลขพาสเวิร์ดที่ได้รับในโทรศัพท์ของเจ้าของเครื่องเท่านั้น เมื่อมีการทำรายการออนไลน์ จะสามารถแน่ใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวจะมีการดำเนินการอย่างปลอดภัย

 

E-Commerce ขายสินค้ากำลังมาแรง

การขายสินค้าบนโลกออนไลน์ หรือที่เรียกว่า “E-Commerce” นับวันยิ่งมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ และเรียกว่ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคนทำธุรกิจประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่่เพิ่งจบการศึกษาและต้องการที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ยังคงไม่มั่นใจที่จะลงทุน จึงใช้ช่องทางออนไลน์มาเป็นช่องทางการทำธุรกิจของตัวเอง ธุรกิจ E-Commerce ถือเป็นช่องทางใหม่และยังเป็นช่องทางหนึ่งที่จะสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการค้าขายให้ผู้ขายได้มากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญคือ “E-Commerce” เป็นช่องทางที่ช่วยในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เลยเห็นได้ว่าในปัจจุบันคนนิยมหันมาทำ “E-Commerce” มากขึ้น แต่การขายสินค้าบนโลกออนไลน์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

กระแสการเติบโตของการค้าบนมือถือ หรือที่เรียกกันว่า M-Commerce (Mobile Commerce) จากตัวเลขประชากรที่ใช้โทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งการใช้งาน 3G ที่จะเปิดให้ใช้งานจริงมากขึ้น ประกอบกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น แท็บเล็ตและโทรศัพท์มือถือมีจำนวนมากและราคาถูกลง ก็ยิ่งทำให้มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์พกพามากขึ้น

การช้อปปิ้งสินค้าผ่านทางอุปกรณ์พกพาอย่างโทรศัพท์มือถือ จึงกลายเป็นเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไม่อาจมองข้าม โอกาสทางการค้าของ M-Commerce ในเมืองไทยมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ

M-Commerce จะเป็นช่องทางที่ช่วยเสริมทำให้เกิดยอดขายเพิ่มขึ้นได้ โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจว่าคนที่ซื้อสินค้าในเว็บไซต์ตลาดดอทคอมในช่วงเวลาปกติ ตั้งแต่เช้าถึงเย็นจะเป็นคนที่ซื้อผ่านทางคอมพิวเตอร์ ส่วนช่วงเวลาเที่ยงหรือช่วงหลังหกโมงเย็นเป็นต้นไป อัตราการซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือจะเติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ที่คนทำงานอาจไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ในการซื้อสินค้าออนไลน์ ฉะนั้น จะเห็นว่าช่องทาง M-Commerce เป็นช่องทางเสริมของการซื้อ-ขายออนไลน์ และเป็นช่องทางในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ผู้ประกอบการ E-Commerce ในเมืองไทยจึงควรหันมามองและวางแผนในการใช้ช่องทางนี้เช่นกัน

ถึงแม้ในขณะนี้ จำนวนเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ที่รองรับรูปแบบบนมือถือในประเทศไทยจะยังมีจำนวนไม่มากนัก แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการ E-Commerce หลายรายน่าจะเริ่มมีการขยับขยาย พัฒนารูปแบบเว็บไซต์ให้รองรับ Version บนมือถือมากขึ้น

โดยจากการรีเสิร์ชพบว่า เว็บไซต์ซื้อ-ขายออนไลน์ที่เป็น E-Commerce หรือ M-Commerce ก็ตาม ส่วนใหญ่มักจะเป็นการซื้อ-ขายผ่าน Mobile Version หรือเว็บไซต์ที่เป็นด้าน Mobile มากกว่าเป็น Application ด้วยตัวแอพพลิเคชั่นค่อนข้างมีข้อจำกัด ยุ่งยาก เพราะต้องทำให้คนโหลดแอพพลิเคชั่นนั้นเสียก่อน ซึ่งที่ผ่านมามีอัตราการเปิดแอพพลิเคชั่นใหม่สูงถึง 20 แอพฯ ต่อเดือน แต่คนที่ใช้จริงเพียงแค่ 4-5 แอพฯ เท่านั้น จึงจะมีแอพฯ อีกเกือบ 15 แอพฯ ที่โหลดมาโดยไม่ได้ใช้ และแอพฯ ใน E-Commerce คือส่วนหนึ่งในนั้น

ฉะนั้น การที่ผู้ประกอบการE-Commerceใช้แอพพลิเคชั่นในการขายสินค้าจึงเป็นการสร้างข้อจำกัดให้กับตัวเอง และสร้างขั้นตอนที่ยุ่งยากให้กับผู้ใช้มากขึ้น จึงแนะนำให้ผู้ขายสินค้าออนไลน์หันไปทำ M-Commerce โดยพัฒนาช่องทางการขายผ่าน Mobile Version เพราะการใช้งานจะสะดวกและรวดเร็วมากกว่า ซึ่งวิธีการแปลงเว็บไซต์ร้านค้าให้มาอยู่บนมือถือนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีที่สามารถตรวจเช็กได้ว่า หากมีผู้บริโภคใช้โทรศัพท์มือถือเข้ามาทำการซื้อ-ขายออนไลน์ ระบบก็จะดึงหน้าเว็บไซต์ที่แสดงบนมือถือให้เลย ในขณะเดียวกันหากใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาก็จะเปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นหน้าเว็บไซต์ปกติให้ทันที ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จำเป็นที่เราต้องนำมาใช้พัฒนาเพื่อให้รองรับกับระบบมือถือมากขึ้น

E-Commerce บริการการซื้อขายออนไลน์

ในโลกปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าอินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในชีวิต ไม่เพียงแต่การ การสืบค้นข่าวสารข้อมูลต่างๆ การติดต่อสื่อสารในหมู่เพื่อนฝูง แต่ยังรวมไปถึงการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตหรือที่นิยมเรียกกันว่า E-Commerce เพราะ E-Commerce บริการการซื้อขายออนไลน์ เพียงแค่คลิก ก็สามารถซื้อขายได้ทุกที่ง่ายดาย สร้างความสะดวกสบายให้ผู้ซื้อและผู้ขาย จับจ่ายได้ทุกที่ทุกเวลา

นอกจากนั้น เทคโนโลยี ก็ยังถือเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจ E-Commerce เติบโตไปได้อย่างรวดเร็วมาก เพราะการทำธุรกิจ E-Commerce ปัจจุบัน สามารถใช้งานได้จากหลายช่องทาง ทั้งทางสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ คอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบของ E-Commerce ก็มาพร้อมความปลอดภัย โดยเว็บไซต์ E-Commerce ส่วนใหญ่จะมีระบบการจ่ายเงินที่สะดวกสบายแต่ระบบความปลอดภัยสูงมาก

ยิ่งไปกว่านั้น E-Commerce ยังเป็นช่องทางใหม่สำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งถือเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการค้าขายให้ผู้ประกอบการได้มากยิ่งขึ้น และเป็นตัวช่วยหนึ่งในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งยังเป็นวิธีที่ดีในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอีกทางหนึ่งด้วย เพราะในปัจจุบันสังคมออนไลน์ถือเป็นสื่อหลักที่ช่วยในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ได้อย่างดีเยี่ยม ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ดังนั้นจึงถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยขยายแบรนด์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและขยายฐานธุรกิจออกไปอีกด้วย

การผันตัวของผู้ประกอบการเข้าสู่ E-Commerce ในสมัยนี้ แตกต่างจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง การเปลี่ยนแปลงนั้นสามารถทำได้ง่ายมาก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องมีความรู้และเข้าใจในเรื่องของ Programming, Designing, Database, Network, Internet, Payment และอื่นๆ แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก จึงส่งผลให้ธุรกิจ E-Commerce เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องจับตา และเริ่มเรียนรู้มัน