บริการรับจำนำรถทุกชนิด

การจำนำรถยนต์ เป็นอีกลู่ทางที่หลายคนนิยมใช้ เนื้อความมีคำถามการเงินขาดสภาพคล่อง เพราะฉลุย ไม่ต้องง้อใคร โดยเฉพาะหากรถคันดังกล่าวไม่ได้ติดไฟแนนซ์ ถูกโอนเป็นชื่อเจ้าของละม่อมแล้ว รถอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีปัญหาอะไร การจำนำก็จะง่ายพร้อมด้วยสะดวกปรู๊ดปร๊าด การจำนำมีหลายประเภท เช่น จำนำทะเบียน จำนำจอด จำนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์ รถยนต์ จำนำรถป้ายแดง จำนำรถกับศูนย์จำนำ www.รับจำนำรถทุกรุ่น.com

เป็นการจำนำรถที่ผมไม่มีทางเลือกไปทดลอง เพราะซื้อมาไม่เกินเดือนก็ได้ป้ายดำ ป้ายน้ำเงินหรือป้ายเขียวแล้ว พร้อมทั้งเมื่อหลายปีก่อน ก็ไม่มีบริการรับจำนำป้ายแดงเสียด้วย เลยไม่มีข่าวสาร ได้แต่อ่านในเน็ต ก็ขอกระจายเสียงต่อตามความรู้สึกก็แล้วกันครับ รถแบบนี้ มีบางคนมีที่มาที่ไปไม่ค่อยเปิดเผย รถอะไรสามารถติดป้ายแดงได้ข้ามปี ถ้าเส้นไม่ใหญ่หรือมีอะไรเยี่ยม กรณีของรถแบบนี้เจ้าของรถจะค่อนข้างเก่ง ก็คงจะแนะนำคนรับจำนำมากกว่าครับว่า รถแบบนี้ เสี่ยงนะ ต้องหาข่าวสารให้อีก เพราะส่วนใหญ่ความถูก จนห้ามใจไม่อยู่ รับจำนำจนเกิดปัญหา ส่วนชาวบ้านครอบคลุมก็เช่นกัน อาจจะมีคนรู้จัก หรือมีใครเอารถแบบนี้มาเสนอให้ ก็อย่าได้แตะ เพราะเห็นแก่ของถูก ทำความเข้าใจให้ดีก่อน ถ้าเลือกเฟ้นได้ อย่ายุ่งดีกว่า จากที่อ่านๆ ดูแล้ว ลึกล้ำมาก

ข้อบังคับพร้อมด้วยมรรยาทในการใช้วิทยุสื่อสารที่ต้องมีในกิจการงาน

ข้อควรปฏิบัติว่าด้วยหลักเกณฑ์และมารยาทในการใช้วิทยุสื่อสาร

ในการส่งข่าวสารทางวิทยุสื่อสารจะต้องให้สั้นและย่อมเท่าที่จะทำได้ก็เพราะว่าทุกวินาทีนั้นมีค่าและถ้าคลาดเคลื่อนไปก็จะล่าช้า ที่สำคัญคือการละทิ้ง การพูดล้อเล่น ย่อมก่อให้เกิดความสับสนได้ ในกรณีที่ไม่มีเกณฑ์ใด ๆ กำหนดไว้ ก็ให้ใช้สำนึก(Common sense) ในงานติดต่อสื่อสาร เพราะในการเล่นจนเลยขอบเขตอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้งานเสีย ปราศจากใครฟังคำกล่าวเหล่านั้น หรือไม่ก็จะหมายถึงการพูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ ในเรื่องที่ไม่ใช่ราชการ เป็นการ มิสมควรในการใช้วิทยุสื่อสาร

เช่นนี้ห้ามปรับแต่งความถี่หรือไม่ก็ลองเครื่องเกินการเหตุจำเป็น พึงรับฟังก่อนส่ง การส่งสอดแทรกที่มิชอบทำให้เกิดการชุลมุนวุ่นวายและ ทำให้เดือดร้อนไม่ก็ขัดจังหวะหน้าที่ ของที่ทำการที่กำลังทำการทำงาน อยู่ในเวลานั้น ใช้คำให้แน่ชัด เน้นหนักที่ควรจะมุ่งเน้น ทราบสบาย มีการใช้คำกล่าวด้วยความไวที่พอเหมาะ โดยจำต้องนึกถึงฝ่ายตั้งรับ ว่าอาจจะเขียนบันทึกได้ทัน เพื่อที่จะลดเวลาที่จะใช้ในการตรวจทานซ้ำ มานะพยายามหลีกการใช้ระดับเสียงที่แปลกประหลาด เสียงสูงทำให้แสบแก้วหูเสียงต่ำทำให้ทราบยากลำบาก พากเพียรใช้คำที่รู้ง่ายพร้อมทั้งสรุปความได้ง่าย แล้วยังควรจะใช้การบอกที่เป็นธรรมดา ระวังโอกาสการกล่าวธรรมดา พร้อมทั้งพูดให้เป็นประโยค ไม่ก็คำกล่าว ไม่ควรจะใช้การพูดเป็นลักษณะคำต่อคำ สนใจติดต่อได้ที่ http://www.firsttelecom.co.th

อาชีพล้างแอร์รถยนต์ดุจมือโปร

บริการล้างแอร์รถยนต์ของเรากินเวลาเพียงเดี๋ยวเดียว ทำเอาคุณนั้นสามารถรอคอยรองรับได้เลยไม่ควรเสียเวล่ำเวลาไปๆมาๆ ไม่ก็หากจะทิ้งไว้เราพร้อมจะสอดส่องดูแลรถให้เป็นอย่างยอดเยี่ยม สำหรับมิให้ต้องลำบากใจว่ารถยนต์หายมั้ย เป็นรอยหรือไม่ ข้อสงสัยเหล่านี้จะหมดไป ทั้งยังมีบริการ Wifi ชั้นในร้านที่บรรยากาศหนาวเย็นสบาย บนเนื้อที่โล่งเตียนโปร่งสบาย เพื่อภายในระหว่างการรอคอยล้างแอร์รถยนต์ของคุณเป็นพิเศษ ซึ่งสถานที่งานการของเรานั้นก็สะอาดสะอ้านต่างจากสภาพการณ์ของอู่ซ่อมรถทั่วๆ ไป

พอให้การเช็ดแอร์นั้นมีคุณภาพและได้รับเกณฑ์ทางเราจึงให้บริการอย่างคุ้นเคยมากเพื่อคุณผู้บริโภคนั้นปราศจากความเกร็ง ให้วิชาความรู้อื่นๆเนื่องด้วยรถยนต์เพิ่มพูนให้กับคุณผู้ใช้ Star Air Sound เรามีเต็มจำนวนทุกบริการอย่างครบวงจร เฉพาะเจาะจงอย่างเข้าแง่ ไม่ใช่เพียงแค่แอร์รถยนต์ของคุณเพียงนั้นเรายังห่วงใยในทุกรายละเอียด ทั้งเรายังจะรอเช็คภาวะหน้าที่ให้กับรถยนต์ของคุณ เพื่อแอร์รถยนต์ของคุณทำการทำงานได้อย่างมีศักยภาพ ไม่ก็ข้อสงสัยน้ำแอร์คอนดิชันรั่วไหล เครื่องปรับอากาศเสีย เครื่องปรับอากาศไม่เย็น เกิดกลิ่นอับอันไม่ประสงค์ หมายรวมบริการล้างแอร์รถยนต์ ทั่วถึงทุกบริการสำหรับเครื่องปรับอากาศและรถยนต์

เราพร้อมสรรพล้างแอร์รถยนต์ของคุณภายในทุกๆ สภาวะ พร้อมทั้งยังมีบริการวันหลังการแก้ไข พร้อมทั้งแจกแจงสถานะของรถยนต์ของคุณจวบจวนการซ่อมบำรุง เพื่อคุณรับทราบหน้าที่ของเรา พร้อมทั้งยังจะได้เข้าใจอุปสรรคจริงๆ ที่อุบัติขึ้นกับรถของคุณด้วย

อาชีพ อย่างมือเก๋าจึงทำเอาคุณอาจไว้เนื้อเชื่อใจทางเราได้ด้วยว่าเราได้การรับจากกฏเกณฑ์สากลมาแล้ว เหตุด้วยทักษะพร้อมทั้งความเก่งที่มีจะทำเอารถคุณหมดข้อสงสัยเรื่องเครื่องปรับอากาศไปได้เลย สนใจติดต่อ http://www.starairsound.com

การนำอะคริลิคพลาสติกมาหาธุรกิจให้บังเกิดคุณค่าดีเลิศ

ในปัจจุบันนี้ อะคริลิคพลาสติก มีการนำมานำมาใช้กับหลายๆ อย่างควบคู่กัน ตัวอย่างเช่น เครื่องตกแต่ง ป้ายโฆษณา เป็นต้น แต่ที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างพอดีที่สุด ก็คือกระจก สระเลี้ยงปลานั่นเอง นั่นก็เพราะว่าการใช้กระจกแก้วในการทำกระจกส่องบ่อเลี้ยงปลา มักมีเรื่องกับการที่แสงสาดส่องผ่านเข้าไปไม่ถึง ทำเอากระจกเงาดูทื่อและมองไม่ค่อยมองเห็นปลาในตู้ไม่ก็ในบ่อ อย่างไรก็ดีเมื่อใช้แผ่นอะคริลิคพลาสติกแทน อาจจะเห็นปลาภายในตู้ได้อย่างชัดเจนพร้อมทั้งสวยงามกว่า ด้วยคุณสมบัติที่เด่นกว่า เช่นนี้

1.ความหนักเบา จึงกระทำการย้ายและตั้งได้ง่ายๆกว่า

2.แสงสว่างอาจจะส่งแสงทะลุได้มากถึง 92% จึงทำเอากระจกมีความกระจ่างพร้อมกับสามารถสังเกตเห็นปลาได้เด่นชัดเพิ่มขึ้น

3.อาจจะเชื่อมโยงแผ่นพลาสติกให้สนิทเป็นเนื้อเดียวกันได้ ด้วยการหุ้มสารเคมีบางชนิด

4.สามารถใช้เป็นฉนวนความร้อนได้ดีกว่าแก้ว จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านกำลังแรงงานได้ดี

5.ถ้าจะมีความแบบบางและอาจจะปรากฏรอยคราบขูดขีดได้ยิ่งกว่าแก้ว แต่ก็สามารถหุ้มสารเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งพร้อมทั้งดูแลรักษาคราบขูดขีดได้

จากการเรียนด้วยว่าต้นฉบับและการพาอะคริลิคพลาสติกมานำมาใช้ จะมองดูได้ว่าอะคริลิคพลาสติกอาจใช้งานได้อย่างนานาประการ และมีคุณลักษณะที่เป็นหน้าเป็นตา น่าจะใช้งานเป็นอันมาก แต่ก็มีจุดบกพร่องอยู่บ้าง คือมูลค่ามีราคา กระนั้นก็ตาม เมื่อเทียบกับคุณลักษณะและคุณประโยชน์ที่ได้จากอะคริลิคพลาสติกแล้ว ก็ถือได้ว่ามีความคุ้มราคามาก

หุ้นส่วนรับสร้างบ้านแบบไหนที่น่าจะคัดเลือกมาปลูกบ้านเรือน

ก่อนเราจะปลูกบ้านจำเป็นจะต้องหาหุ้นส่วนที่จะเข้ามารับสร้างบ้าน โดยจะดูได้จากความโด่งดัง งานที่ผ่านมาเรื่องราวงานก่อสร้างเป็นเช่นไร บ้านที่เคยปลูกสร้างมามีคุณลักษณะดีหรือไม่เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ หลังจากนั้นต้องหาประกาศว่าบริษัทฯ มีการบริการหลังงานก่อสร้างแล้วเสร็จยังไง มีการติดตามช่วยดูแลผู้ใช้ดีเป็นปกติหรือเปล่า และการเข้าบริการชักช้าหรือเร็วมากเพียงใด

ส่วนสำคัญ หมายถึง การดูว่าหุ้นส่วนดังกล่าวข้างต้น มีทรัพยากรที่พอที่จะสามารถสร้างบ้านของท่านให้มีสุขดีหรือเปล่า พร้อมทั้งทีมที่จะมาจัดการนั้นมีความเก่งความชำนาญมากน้อยแค่ไหน เมื่อดูเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วจึงจะตั้งต้นสัญญาว่าจ้างให้กองกลางรับสร้างบ้านคือผู้ปลูกเรือนให้กับท่าน ควรจะพินิจรายละเอียดในสนธิสัญญาให้รัดกุม ไม่ว่าจะเป็นการจำแนกงวดงาน การรับรองสิ่งปลูกสร้าง ระบุเวลาแล้วเสร็จหรือไม่ก็เงื่อนไขอื่นๆ เพื่อที่จะคุ้มกันการเกิดปัญหาข้อแย้งในคราวหลังเนื่องด้วยถ้าหากเมื่อเริ่มปฏิบัติงานจะไปโต้เถียงภายหลังค่อนข้างจะยุ่งยากเลย ทั้งยังเกิดความกระทบกระเทือนทางลบกับทุกๆฝ่าย อย่างนั้นการที่เราจะเซ็นสัญญาจำต้องถี่ถ้วนมักมาก

ทางหุ้นส่วนจะมีการเรียงเอื้ออำนวยความสบายในการลงลายมือชื่อและการวางมัดจำ รวมถึงการเตรียมการปกครองปลูกเรือนแบบขั้นตอนที่กะทัดรัดและละเอียดอ่อน ส่วนข้อปลีกย่อยนั้นก็จะมีการรายงานอยู่บ่อยให้รับทราบการรุดหน้า ซึ่งหมายถึงงานการทุกสิ่งคุณจะเกี่ยวข้องรู้เรื่องทุกครั้ง สำหรับการงาน อย่างมีศักยภาพ จึงจำต้องขอให้แน่ใจหากเรื่องการงานของแห่งใดที่หนึ่งแล้ว วันนี้เราจึงขอแนะนำที่นี้  ให้คุณได้เข้ามาลองดูก่อนว่ามีอะไรที่น่าหลงใหลกันบ้าง หากอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.conventure.co.th/

วิธีการเป็นพนักงานต้อนรับที่ดี

พนักงานต้อนรับ

มีทักษะการจัดการเป็นเลิศ พนักงานต้อนรับคือหน้าตาของบริษัท เพราะเป็นคนแรกที่ได้พูดคุยกับลูกค้า เป็นคนที่เพื่อนร่วมงานและใครๆ ต่างก็มาถามข้อมูลรวมไปถึงแผนการจัดงานต่างๆ นอกจากงานรับโทรศัพท์และบอกทางให้คนที่เข้ามาในบริษัทแล้ว ยังต้องทำงานร่วมกับลูกค้า จัดการประชุมและงานต่างๆ อีก ด้วยหน้าที่รับผิดชอบเหล่านี้ พนักงานต้อนรับจึงต้องมีทักษะการจัดการเป็นเลิศ สามารถทำงานหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน ใครที่ไม่สามารถทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้อย่างเป็นระเบียบจะไม่สามารถทำงานในตำแหน่งนี้ได้นานนัก[1]

วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยก็คือ การลงทุนสร้างระบบการจัดเก็บเอกสารที่สะดวกกับคุณมากที่สุด คุณต้องรู้ว่าเอกสารหรือข้อมูลไหนที่เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้าต้องใช้บ้าง เก็บเอกสารเหล่านี้แยกแฟ้มทั้งเอกสารที่เป็นกระดาษและที่รวมกันเป็นโฟลเดอร์อยู่ในหน้า Desktop หาวิธีที่จัดเก็บเอกสารที่คุณสามารถทำงานได้สะดวก ถ้ารู้สึกว่าแปะ Post-It สีนีออนไว้น่าจะเวิร์ก ก็แปะเลย

การมีทักษะการจัดการที่ดีรวมไปถึงการมีแรงกระตุ้นในการทำงานด้วย ไม่ต้องให้ใครมาบอกว่าต้องทำอะไรบ้างหรือมาจี้ให้คุณทำงาน ถ้าคุณมีทักษะการจัดการที่ดี คุณจะรู้ว่าแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง และต้องทำงานไหนให้เสร็จก่อน

เก็บเบอร์โทรศัพท์ไว้ใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นของเพื่อนร่วมงาน นายจ้าง ผู้รับจ้าง ผู้จำหน่าย เบอร์โทรศัพท์ติดต่อกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น เพราะคุณต้องได้ใช้แน่ จัดระเบียบเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ดีในสมุดโทรศัพท์หรือในโปรแกรมคอมพิวเตอร์

สร้างเว็บไซต์เปิดร้านค้าออนไลน์ดีกว่า ลงทุนถูกกว่ามีร้านเอง

ความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาได้นำพาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาสู่ชีวิตผู้คนอยู่เสมอ แต่สิ่งที่โดดเด่นและจับต้องได้มากที่สุดคงเป็นเรื่องเทคโนโลยี ต้องยอมรับว่าการถือกำเนิดของเทคโนโลยีใหม่ๆ มีส่วนช่วยผลักดันและอำนวยความสะดวกให้กับการดำเนินชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีซึ่งถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์อันทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกปัจจุบันนั่นก็คือ ‘อินเทอร์เน็ต’ หลายคนยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าการถือกำเนิดของโลกออนไลน์เสมือนจริงทำให้ชีวิตพวกเขาแปรเปลี่ยนไปตลอดกาล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการทำธุรกิจ อินเทอร์เน็ตเข้ามามีอิทธิพลอย่างมาก และที่น่าจับตามองก็คงไม่พ้นการเปิดเว็บไซต์ขายสินค้าผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์

การสร้างเว็บไซต์เพื่อใช้เป็นสื่อในการขายสินค้าได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยแล้วความนิยมด้านเว็บไซต์ขายของเพิ่งจะเริ่มได้รับในระดับเริ่มต้นเท่านั้น อาจเป็นเพราะคนที่มีกำลังซื้ออย่างแท้จริงยังเข้าถึงสื่อประเภทนี้ไม่มากมายนัก บวกกับค่านิยมในอดีตที่มักซื้อขายแลกเปลี่ยนแบบเห็นหน้ากันโดยตรงทำให้มีผลทางความเชื่อมั่นเมื่อต้องเปลี่ยนมาซื้อขายแบบไม่เห็นหน้าโดยผ่านจอคอมพิวเตอร์แทน แต่ในความเป็นจริงการขายสินค้าผ่านเว็บไซต์มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจค่อนข้างมากในปัจจุบัน โดยประโยชน์ของการสร้างเว็บไซต์เพื่อขายสินค้ามีดังต่อไปนี้

1.ทำเว็บไซต์มีราคาประหยัด
ความประหยัดถือเป็นจุดเด่นที่สามารถจับต้องได้ชัดเจนมากที่สุดของการสร้างเว็บไซต์เพื่อขายสินค้า เพราะหากลองจับคู่เทียบความแตกต่างระหว่างการเปิดหน้าร้านขายสินค้ากับการใช้เว็บไซต์เพื่อขายสินค้าแล้ว ผู้ประกอบการก็จะสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ว่าการขายสินค้าผ่านโลกออนไลน์จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก เพราะทำเว็บไซต์แทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียงแค่เสียค่าโดเมนและค่าทำเว็บไซต์เท่านั้น หรือหากเลือกใช้เว็บสำเร็จรูปก็ยิ่งสะดวกมากขึ้น เว็บไซต์จึงเป็นทางเลือกที่ดีมากในการออกสตาร์ตเริ่มทำธุรกิจ

2.คนเข้าถึงเว็บไซต์ง่าย
การเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมทุกคนจากทุกมุมโลกให้ติดต่อสื่อสารกันได้ผ่านทางเวิล์ดไวด์เว็บ การมีเว็บไซต์เพื่อขายสินค้าจึงเป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อซื้อสินค้าให้มีมากขึ้นและยังเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าด้วย เพราะลูกค้าไม่จำเป็นต้องมาเลือกซื้อสินค้าถึงบริษัทหรือหน้าร้านด้วยตนเองซึ่งอาจเสียเวลาพอสมควรเพราะการจราจรที่ติดขัด อีกทั้งเรายังสามารถซื้อขายผ่านเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขจัดปัญหาข้อจำกัดทางด้านเวลาได้อีกด้วย

3.ทำเว็บไซต์ไม่ต้องมีหน้าร้าน
การใช้เว็บไซต์เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้ามีข้อได้เปรียบมากกว่าลงทุนเปิดร้านหรือโชว์รูมเป็นของตนเอง เพราะการมีหน้าร้านจะต้องเสียค่าเช่า ค่าตกแต่ง ค่าจ้างพนักงาน และอื่นๆ อีกจิปาถะ รวมถึงต้องเหน็ดเหนื่อยดูแลเปิดปิดร้าน ซึ่งอาจไม่คุ้มค่ามากสักเท่าไรสำหรับธุรกิจซึ่งเพิ่งสร้าง เพราะอาจทำให้ระยะเวลาคืนทุนยืดออกไปอีก

4.เว็บไซต์ทำให้การเสนอขายน่าสนใจกว่า

สื่อออนไลน์บนโลกไซเบอร์ได้เปรียบเรื่องเทคโนโลยีและสีสัน ช่วยให้การเสนอขายสินค้าดูดีและดึงดูดได้มากกว่าวิธีปกติธรรมดาทั่วไป ผู้ประกอบการอาจใช้ลูกเล่นในการนำเสนอ อาจการตกแต่งภาพของสินค้าและองค์ประกอบในรูปให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น สร้างวิดีโอสาธิตวิธีใช้งานโดยผู้เชี่ยวชาญหรือดาราผู้มีชื่อเสียงก็น่าสนใจเพราะสามารถส่งผลทางจิตวิทยาต่อผู้รับชมได้ไม่น้อย จึงเป็นเทคนิคที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการขายสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

สำหรับประเทศไทย การขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังมีคู่แข่งขันไม่มากที่หันมาใช้กลยุทธ์วิธีนี้ ดังนั้นการขายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งน่าสนใจมากซึ่งผู้ประกอบการควรนำมาใช้ต่อยอดทางธุรกิจ อีกทั้งยังควรก้าวให้ทันเทคโนโลยีต่างๆ ด้วย อย่าลืมว่า “การทำอะไรก่อนผู้อื่นย่อมได้เปรียบเสมอ”

ตลาด E-Commerce มีการแข่งขันสูง จะมีวิธีการสร้างกำไรอย่างไร

ผู้บริโภคเริ่มหันมาสนใจการซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น เนื่องจากสะดวก รวดเร็ว เพียงนั่งรอสินค้าอยู่ที่บ้านก็เหมือนได้ไปเลือกซื้อด้วยตนเองแล้ว อีกทั้งห้างสรรพสินค้าหลายแห่งเริ่มหันมารุกตลาดด้านนี้มากขึ้น และไม่เพียงแต่บริษัทใหญ่ๆเท่านั้น ทางด้านธุรกิจขนาดเล็กก็เริ่มเจาะกลุ่มตลาดลูกค้าออนไลน์กันมากขึ้น นั่นก็เพราะไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย และได้รับผลกำไรที่มากกว่า ไม่ต้องเสียเงินไปกับการเช่าที่ขายสินค้า

แต่อย่างไรก็ตามตลาดสินค้าออนไลน์เริ่มมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการหลายเจ้าเริ่มวางแผนการตลาดกันใหม่ รวมไปถึงธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องหาสินค้าที่ดึงดูดผู้บริโภค หรือไม่ซ้ำใครออกมานำเสนอให้กับผู้บริโภค ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ยากที่จะสรรหาสินค้าหรือรูปแบบการตลาดที่โดนใจ ทำให้เกิดการตัดราคากันขึ้น เพราะ การดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ราคามีอิทธิพลสูง การตั้งราคากับภาพพจน์ของแบรนด์ การเพิ่มราคาอย่างโปร่งใส และการเพิ่มผลตอบแทนจากสินค้าคงคลัง ดูเหมือนว่าหัวข้อเหล่านี้จะเป็นงานที่รับมือลำบากทั้งสิ้น หากขาดการวางแผน นอกจากด้านราคาแล้วยังมีแผนการตลาดที่น่าสนใจมาแนะนำ ดังนี้

1.มีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามา การตั้งราคาใหม่อาจจะต้องใช้งบประมาณและเวลาเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การใช้ทรัพยากรออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่พึงกระทำ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มผลิตผลแล้ว ยังช่วยลดค่าบริหารจัดการอีกด้วย

2.ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า ผู้ประกอบการควรใช้หลักจิตวิทยาในการตั้งราคาเพื่อสร้างกำไร ในเบื้องต้นอาจจะดูขัดกับหลักการสร้างกำไรของธุรกิจ ผู้ซื้อได้รับอิทธิพลจากการลดราคา การส่งสินค้าฟรีก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ใช้ได้ผล

3.จัดการสินค้าในคลังให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากสินค้าขาดสต็อก มีความเป็นไปได้สูงถึง 77% ของลูกค้าที่จะเปลี่ยนไปซื้อกับคู่แข่งแทน ดังนั้นเราจำเป็นต้องรักษา 77% นี้ให้อยู่กับเรา

4.บริการที่ดี มีแนวโน้มว่าทำให้ลูกค้ากลับมาซื้ออีกครั้งกับร้านเดิม แม้ว่าจะตั้งราคาสูงกว่าร้านอื่น 66% ของผู้ซื้อ ต้องการซื้อเพิ่มอีกหากได้รับการบริการที่ดีจากทางร้าน

5.ตั้งราคาตามกลุ่มลูกค้า จะทำให้องค์กรสามารถกำหนดราคาสินค้าตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ เพราะจะช่วยให้ผู้ประกอบการปฏิบัติต่อลูกค้าได้อย่างทันที ว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนแปลงราคา

e-Commerce สร้างโอกาส ขยายตลาดสร้างมูลค่าและรายได้ให้กับธุรกิจ

25ในระยะที่ผ่านมา หลายท่านคงเริ่มคุ้นหูกับคําว่า “เศรษฐกิจดิจิทัล” (Digital economy) ที่เป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลปัจจุบันใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งหัวใจสําคัญของนโยบายนี้ก็คือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เข้ากับกระบวนการและกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับในการแข่งขัน โดยตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดคงหนีไม่พ้น“พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า e-Commerce ที่เป็นการดําเนินธุรกิจซื้อขายสินค้าและบริการโดยใช้สื่อและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก

หากเราจะมองหาต้นแบบของประเทศที่ประสบความสําเร็จในเรื่องของ e-Commerce และเป็นประเทศที่ใกล้กับไทยแล้ว ประเทศจีนถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่น่าศึกษา ว่าทําไมจีนถึงสามารถพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) ให้เติบโตจนก้าวสู่ระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว

การใช้คําว่า “ระดับโลก” ก็คงไม่ผิดนัก เพราะ e-Commerce ของจีนมีการเติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2546-2554 มีการเติบโตต่อปีเฉลี่ยสูงถึง 120 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว จนทําให้ในปัจจุบัน จีนได้ก้าวกระโดดจนกลายเป็นประเทศที่มียอดการซื้อขายสินค้าออนไลน์สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกแทนที่สหรัฐอเมริกาความสําเร็จนี้ได้นําไปสู่คําถามสําคัญที่ว่า อะไรที่ทําให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นําในด้านการค้าแบบ e-Commerce ของโลกได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี

จะเห็นว่าช่องทาง e-Commerce สามารถช่วยผู้ประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและเล็กให้สามารถการขายสินค้าได้มากขึ้น โดยไม่ได้จํากัดแต่เฉพาะตลาดในจีนเท่านั้น ยังสามารถขยายโอกาสไปถึงตลาดต่างประเทศได้โดยไม่จําเป็นต้องเปิดหน้าร้านในประเทศนั้นๆ เช่น ประเทศไทยที่มีผู้ชื้อให้ความสนใจในการซื้อสินค้าออนไลน์จากจีนมากขึ้น ซึ่งจะเรียกว่าเป็นการส่งเสริมการส่งออกด้วยก็คงไม่ผิดนัก นอกจากนี้ จากประสบการณ์ของจีน ยังทําให้เราได้เห็นประเด็นที่น่าสนใจอีกว่า การซื้อขายออนไลน์ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคู่แข่งกับร้านค้าแบบดั้งเดิม แต่ในความเป็นจริงแล้วการเติบโตของ e-Commerceกลับส่งผลดีต่อธุรกิจร้านค้าแบบดั้งเดิมด้วย ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะร้านค้าแบบดั้งเดิมจํานวนมากจําเป็นต้องปรับตัว โดยหันมาใช้กลยุทธ์ในการเสนอสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งทําให้ร้านค้าแบบดั้งเดิมของตนเองเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย ทําให้การซื้อขายของทั้งสองช่องทางเติบโตขึ้นในทิศทางเดียวกัน

เมื่อหันกลับมามองประเทศไทย ในยุคที่รัฐบาลกําลังผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อให้ประเทศมีโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะด้าน IT ที่ทันสมัย สามารถเชื่อมโยงกับตลาดโลกได้ ถือเป็นโอกาสทองที่จะช่วยให้ธุรกิจทั้งรายใหญ่และ SMEs สามารถใช้ช่องทาง e-Commerce สร้างโอกาส ขยายตลาดสร้างมูลค่าและรายได้ให้กับธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่วยลดขั้นตอนและต้นทุนต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าและการส่งออก เช่น การเป็ดร้านที่มีต้นทุนสูง และการต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง เป็นต้น ซึ่งหากธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs ที่มีสัดส่วนเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ประเทศใช้ e-Commerce ในการรุกเข้าสู่ตลาดโลกได้ ก็อาจจะเป็นตัวจุดประกายที่สําคัญให้การส่งออกของไทยกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

แต่การที่ไทยเราจะก้าวไปสู่จุดนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ทุกภาคส่วนสําคัญที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือกันในการผลักดัน e-Commerce อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องการพัฒนานวัตกรรมและรูปแบบการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และการมีระบบการชําระเงินที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยรองรับ รวมไปถึงการส่งเสริมให้คนไทยมีการซื้อขายสินค้าออนไลน์มากขึ้นด้วยเหล่านี้จะช่วยให้ e-Commerce กลายเป็นช่องทางการค้าสมัยใหม่ที่น่าสนใจของภาคธุรกิจไทย ทั้งการค้าขายภายในประเทศและการค้าขายระหว่างประเทศในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

กระแสการดำเนินธุรกิจผ่านระบบตลาดออนไลน์

การทำตลาดสมัยใหม่นี้เป็นการตลาดความสัมพันธ์ที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ การตลาดเชิงธุรกิจหรือการตลาดเชิงอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นองค์กรหรือสถาบัน และการตลาดเชิงสังคมที่มุ่งเน้นประโยชน์ต่อสังคม นอกจากนี้การตลาดรูปแบบใหม่นี้ได้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์ค้นหาข้อมูล การโฆษณาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ การตลาดยุคสมัยใหม่นี้พยายามทำกลยุทธ์การแบ่งกลุ่มลูกค้าให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ซึ่งถือเป็นกระบวนการหนึ่งของการตลาดแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังเป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้มีความแม่นยำชัดเจนมากยิ่งขึ้น การตลาดผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ได้หมายถึงการทำตลาดอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการตลาดผ่านอีเมล สื่อไร้สาย และการผลักดันผู้คนที่ได้บริโภคสื่ออย่างวิทยุ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นการตลาดแบบดั้งเดิมเข้าไปสู่อินเทอร์เน็ตหรือหน้าเว็บไซต์ต่างๆอีกด้วย

การตลาดเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นสิ่งที่จะนำธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ แม้แต่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านการตลาดก็ยังเป็นที่ต้องการขององค์กรต่างๆอยู่เสมอ ทำให้นักการตลาดต้องปรับกลยุทธการตลาดเสียใหม่ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อบรรลุเป้าหมายในการครองใจผู้บริโภค การทำการตลาดโดยอาศัยระบบอินเตอร์เน็ตซึ่งถือได้ว่าเป็นวิธีการทำการตลาดที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ระบบอินเตอร์เน็ตมีความเร็วสูงขึ้นและเป็นที่แพร่หลายโดยทั่วไป พร้อมกันนี้ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลกโดยใช้ทุนน้อยที่สุดอีกด้วย การตลาดออนไลน์นี้ยังเป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสมกับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะลูกค้าสามารถแจ้งรายละเอียด รวมไปถึงสามารถแนะนำเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นตรงตามความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย

แม้แต่ธุรกิจขายตรงก็หลีกหนีไม่พ้นที่จะต้องเจอกระแสตลาดออนไลน์ เห็นได้ว่าบริษัทขายตรงหลายแห่งเริ่มมีการให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต มีการจัดประชุมผ่านระบบ Online , สามารถดาวน์โหลด MP3 เกี่ยวกับแผนการจ่าย ผลตอบแทน , รายละเอียดของสินค้าที่สามารถนำไปนั่งฟังบนรถประจำทางได้โดยที่ไม่ต้องเร่งรีบมาที่บริษัทเพื่อรับฟังรายละเอียดของสินค้า สิ่งเหล่านี้กำลังเป็นตัวบ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น ดังนั้นการทำกลยุทธ์ทางการตลาดบนสื่ออินเตอร์เน็ตจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการดำเนินธุรกิจเพราะเป็นการดึงดูดลูกค้าได้หลายกลุ่มนอกจากลูกค้าในประเทศแล้วการใช้สื่อออนไลน์นี้ยังเป็นประโยชน์ในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศให้เข้ามาสนใจธุรกิจของเรา แล้วตัดสินใจซื้อสินค้าของเราและหากลูกค้าเกิดความประทับใจก็จะนำสินค้าของเราไปบอกต่อกับลูกค้ารายอื่นๆ แล้วกลับมาใช้บริการธุรกิจของเราอีก

วางแผนตัวคุณเพื่อเข้าสู่การค้าออนไลน์ (e-Commerce)

การทำธุรกิจ e-Commerce เป็นรูปแบบหนึ่งของการประกอบธุรกิจ ซึ่ง จะต้องอาศัยทั้งศาสตร์และ ศิลป์ โดยเฉพาะความรู้ความเข้าใจทางด้านการตลาด ตั้งแต่วิธีการเข้าถึงและดึงกลุ่มเป้าหมาย (Come-In) จากยอดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีมากกว่าหนึ่งพันล้านรายในปัจจุบัน รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อม ให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ ส่งผลทำให้เกิดรายได้ (Income) จากเว็บไซต์ของธุรกิจ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมของตัวคุณในการเข้ามาทำธุรกิจออนไลน์นั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะมองเห็นความเป็นไปได้ของการทำธุรกิจออนไลน์และการประสบความสำเร็จโดยมีสิ่งที่ต้องเตรียม ความพร้อมเบื้องต้น ดังต่อไปนี้

เป้าหมายของธุรกิจ กำหนดเป้าหมายของการจัดทำเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ให้ชัดเจน เพื่อการขายสินค้าหรือบริการใช่หรือไม่ จะให้สั่งซื้ออย่างไร จัดส่งด้วยวิธีใด ต้องการให้ข้อมูลของ สินค้าหรือบริการอะไรบ้างเว็บไซต์

การวิเคราะห์ต้นทุน ความเสี่ยงและผลตอบแทน
– การลงทุนทางธุรกิจเป็นเรื่องที่คาดหวังผลตอบแทน คือ กำไรที่ได้จากการขายสินค้าหรือบริการ โดยต้องสร้างความมั่นใจว่าจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเมื่อวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนการลงทุนในอนาคตจะได้รับเงินคืนมากกว่าที่ลงทุนไปวันนี้
– การสร้างมูลค่าจากการลงทุนการพัฒนาเครื่องหมายหรือการบริหารตลาดที่จะสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจ ในแข่งชันให้ลูกค้าหันมาใช้บริการ เพิ่มขึ้น กับการนิ่งเฉยและปล่อยให้โอกาสทางธุรกิจลดลงเรื่อย ๆ
– ความเสี่ยง ที่จะทำให้ต้องพบกับแรงผลักดันในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้ารายใหม่ พฤติกรรม ตลาดที่เปลี่ยนไป อำนาจการต่อรองของผู้จัดหาวัตถุดิบ สินค้าทดแทน และความรุนแรงในการแข่งขัน ซึ่งเราต้องรับรู้ ทำความเข้าใจ ตามให้ทันที่จะสร้างความได้เปรียบหรือกำหนดกลยุทธ์ให้เหนือคู่แข่งขัน นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะละเลยมิได้

สินค้าและราคา จะหมายถึง การมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่เราจะนำไปขายใน e-Commerce เป็นอย่างดี เพื่อที่เราจะได้รู้ถึงภาวะและแนวโน้มของตลาดในสินค้านั้นๆ ซึ่งตรงส่วนนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เปรียบคู่แข่ง

ช่องทางการพัฒนาตลาด e–Commerce ในประเทศไทย

mobile-e-commerce-trendsการเติบโตของตลาด e-Commerce ถือเป็นเชื้อเพลิงหลักให้กับการซื้อขายออนไลน์ โดยปัจจุบันนักลงทุนหลายๆรายต่างเริ่มสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจ e-Commerce กันมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นปัจจุบันต้องพัฒนาเกมและแผนการตลาดของตนเองโดยใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลมาช่วย เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์เพื่อทำการตลาดแบบระบุกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะตลาดสินค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น เสื้อผ้าคนอ้วน, เสื้อผ้า-รองเท้ากีฬา, อุปกรณ์ทำสวน เป็นต้น ซึ่งสินค้าเฉพาะกลุ่มเหล่านี้มีกำลังซื้อสูงมาก โดยเฉพาะหากสินค้านั้นๆมีคุณภาพด้วยแล้วก็จะสามารถชนะใจลูกค้ากลุ่มนี้ได้ง่ายๆ และสามารถแสดงความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆได้

สมัยก่อนเทคโนโลยีไม่สามารถทำให้เราวิเคราะห์ข้อมูลใหญ่ๆได้ ซึ่งปัจจุบันนี้เปิดกว้างมากขึ้น เราเริ่มที่จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลใหญ่ๆได้แล้ว คือเราเริ่มเอาข้อมูลผู้ซื้อผู้ขายมาวิเคราะห์ เราจะเริ่มรู้ว่าคนที่ซื้อสินค้าเราเป็นผู้หญิง ผู้ชาย ต้องการอะไร พฤติกรรมการซื้อเป็นยังไง เมื่อมีข้อมูลทั้งหมดจากคนที่ซื้อเข้ามา คุณจะเริ่มสามารถคาดการและวางแผนการตลาดได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เรากำลังก้าวเข้าสู่ชุดการตลาดยุคใหม่ จากเดิมเมื่อก่อนผู้บริโภคจะต้องค้นหาสินค้าว่าต้องการอะไร ในเมื่อเทคโนโลยีมันเปิดกว้างมากขึ้นหรือเก่งมากขึ้น เราจะเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคของสินค้าที่เดินเข้าหาผู้บริโภค เพราะสินค้าจะรู้ว่าคุณกำลังจะต้องการสินค้าชิ้นนี้

เนื่องจากร้านค้าออนไลน์ในปัจจุบันเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นวิธีการดึงดูดลูกค้าได้ดีที่สุดของทุกรายจึงหนีไม่พ้นเรื่องการจัดโปรโมชั่น ทั้งลดราคาและแจกคะแนนสะสม โดยผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็คือผู้บริโภคทำให้ความจงรักภักดีของผู้บริโภคต่ำมาก เพราะใครเสนอราคาที่ถูกกว่าและต่ำกว่าผู้บริโภคก็พร้อมจะเปลี่ยนใจไปซื้อได้ทันที ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความแตกต่างและอยู่เหนือคู่แข่งรายอื่นๆ ร้านค้าจึงควรจะสร้างความประทับใจในการซื้อครั้งแรก พร้อมกับปรับปรุงบริการหลังการขายให้ลูกค้าปัจจุบัน โดยใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียให้เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับลูกค้า การทำธุรกิจ e–Commerce ก็ยังพบปัญหาอุปสรรคที่ต้องการการแก้ไข คือ การที่ผู้รับบริการบางรายถูกหลอกลวง การได้รับสินค้าไม่ตรงตามโฆษณา ขั้นตอนการสั่งซื้อยุ่งยาก เป็นห่วงความปลอดภัยทางด้านข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลบัตรเครดิต การส่งของที่ล่าช้าและไม่เห็นสินค้าก่อนสั่งซื้อหรือสั่งจอง ฯลฯ

กลยุทธ์การทำตลาดเว็บไซต์สำหรับ E-commerce

สังคมแห่งยุคเทคโนโลยีสารสนเทศนับวันจะเจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด ทุกวิชาชีพล้วนแล้วแต่มุ่งสู่สังคมอินเทอร์เน็ต มีการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์หน่วยงานหรือบริษัทของตนว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้ประชาชนได้เชื่อถือหน่วยงานเป็นเบื้องแรก และเริ่มนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการให้ข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนเริ่มพัฒนาอย่างจริงจังเพื่อสร้างมูลค่าให้กับเว็บไซต์ (Web Site) มากยิ่งขึ้น จากจุดนี้เองในเมื่อบริษัทเริ่มมีเว็บไซต์เกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นหัวใจสำคัญในเบื้องแรกคือ จะทำอย่างไรจึงจะทำให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย คลิกเข้ามายังเว็บไซต์บริษัทของเราเพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อสินค้า หรือเลือกชมสินค้าได้ตามความพอใจ

1. การสร้างเว็บไซต์ให้น่าสนใจ
ในการออกแบบเว็บไซต์ให้น่าสนใจนั้น เป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งที่จะเป็นการดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้ ซึ่งหากเขาได้เห็นเว็บไซต์ของเราที่มีการออกแบบที่สวยงาม มีสิ่งที่สนองความต้องการของเขาแล้ว ก็จะทำให้เขาติดตามข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับสินค้า ซึ่งองค์ประกอบที่ถือเป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบเว็บไซต์คือ การมีภาพประกอบที่สื่อถึงตัวสินค้า ผลิตภัณฑ์ที่เราจะนำเสนอ ภาพนั้นจะต้องมีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้การโหลดภาพช้า จนอาจทำให้ผู้บริโภคคลิกไปยังเว็บไซต์อื่นได้ นอกจากนี้ยังมีข้อความที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ใช้ตัวอักษรที่เป็นสากล กล่าวคือสามารถอ่านได้จากบราวเซอร์ทุกตัว ไม่ว่าจะเป็น Netscape หรือ Internet Explorer เป็นต้น และปุ่มทั้งที่เคลื่อนไหว และไม่เคลื่อนไหว หรือแม้แต่กราฟิกนำทาง เพื่อความสวยงามและเป็นเส้นนำสายตาให้น่าสนใจ ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์น่าสนใจได้
2. มองหาเว็บไซต์อื่นเพื่อที่จะฝากลิงค์
การที่จะจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น สิ่งหนึ่งจะต้องอาศัยพันธมิตร ก็คือเว็บไซต์ที่ให้บริการฝากลิงค์ หรือแลกลิงค์ หรือการไปแนะนำเว็บไซต์ของเรากับเว็บต่าง ๆ ส่วนอีกประเภทหนึ่ง ถือเป็นพันธมิตรทางการค้า กล่าวคืออาจจะเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเหมือนกัน หรือธุรกิจเอื้อกัน ก็สามารถที่จะนำกราฟิกชื่อหรือสัญลักษณ์ของเว็บไซต์ต่าง ๆ มาไว้ในหน้าแรกของเว็บเรา เพื่อที่จะให้ผู้บริโภคคลิกเข้าอ่านได้ ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และเป็นการประหยัดงบประมาณในการทำตลาดเว็บไซต์ได้อีกด้วย
3. สร้างสังคมออนไลน์ภายในเว็บไซต์ของเรา
การที่จะให้ผู้บริโภคคลิกเข้ามาเว็บไซต์ของเรานั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยาก แต่เรื่องที่ยากกว่านั้นคือ การที่จะทำอย่างไรที่จะทำให้ผู้บริโภคเข้ามาแล้วเกิดความสนใจเว็บเรา จนต้องจดจำหรือ Add URL ไว้ที่เครื่องของเขา หรือจะเข้ามาชมเป็นครั้งที่ 2 หรือครั้งต่อ ๆ ไป ถือเป็นการยากกว่า แต่หากเราสร้างสังคมออนไลน์ให้เกิดขึ้น เช่นมีการแจก E-mail ฟรี ก็จะทำให้คนเข้ามาเช็คเมล์ ซึ่งบางคนเช็คทุกวัน เว็บไซต์ของเราก็มีคนเข้าทุกวัน วันละหลาย ๆ ครั้ง หรือการให้บริการด้าน Chat Room เป็นการสนทนาออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมจากการสนทนาในลักษณะนี้
4. การแลกแบนเนอร์ให้กับเว็บไซต์
โดยปกติแล้วในการทำตลาดเว็บไซต์มีการขายพื้นที่ หากจะไปลงโฆษณาในเว็บไซต์อื่น กล่าวคือการนำแบนเนอร์ของเราให้ไปปรากฏในเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ก็จะเป็นการทำตลาดอย่างสำคัญให้กับเว็บไซต์ของเรา ซึ่งในปัจจุบันสามารถที่จะฝากแบนเนอร์ฟรี ได้ด้วย
5. โฆษณาขายสินค้าออนไลน์ (Classified Ad Online)
การโฆษณาขายสินค้าออนไลน์ มีไว้สำหรับร้านค้าแบบออนไลน์ เป็นการนำแบนเนอร์ไปฝากไว้กับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา ซึ่งสามารถทำให้ผู้ชมเข้าชมเว็บไซต์ต่าง ๆ แล้วคลิกเข้ามาหาเว็บเราได้
6. การใช้สื่ออื่นเพื่อประชาสัมพันธ์เว็บไซต์
เว็บไซต์ที่ทำการเปิดตัวใหม่ ๆ จะมีบริษัทรับทำประชาสัมพันธ์ให้ ซึ่งถือเป็นอาชีพใหม่ของนักการตลาด เนื่องจากเมื่อมีการค้า-ขายทางอินเทอร์เน็ตด้วยแล้ว สิ่งแรกเลยที่สินค้าจะไปถึงลูกค้าคือการที่จะทำอย่างไรให้เว็บไซต์ไปถึงผู้บริโภคได้ จึงมีบริษัทรับทำประชาสัมพันธ์ไอทีขึ้น (Production house IT) ซึ่งเป็นบริษัทรับทำประชาสัมพันธ์แบบใหม่ที่เป็นอาชีพใหม่ที่น่าสนใจสำหรับนักการตลาดยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเว็บที่มีชื่อเสียงล้วนแล้วแต่อาศัยบริษัทเหล่านี้ช่วยประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ให้ทั้งสิ้น

จะเห็นได้ว่ามีกลยุทธ์ต่าง ๆ มากมาย หรือยังไม่กล่าวมา ณ ที่นี้ ก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ให้ประชาชนได้รับทราบ และสนใจที่จะติดตามเข้าเยี่ยมชม หรือเป็นลูกค้าสำคัญ ที่จะต้องเข้ามาเยี่ยมชมกิจการได้ในที่สุด ดังนั้นนักการตลาดยุคใหม่ จำเป็นต้องมีความรู้ด้านอินเทอร์เน็ต การเขียนเว็บไซต์เพื่อผลทางการตลาดของบริษัท อาจจะเป็นลักษณะการให้ความรู้ ข่าวสารของบริษัท หรือสามารถที่จะขยายไปสู่การค้า-ขายสินค้าออนไลน์ได้ และสิ่งที่สำคัญเบื้องแรกคือ จะต้องให้ความสำคัญกับการทำการตลาดให้กับเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์เราอยู่รอดได้ กล่าวคือเมื่อมีผู้เข้าเยี่ยมชมมาก ก็จะสามารถที่จะหารายได้จากเว็บไซต์ได้อีกด้วย

E-Commerce ธุรกิจออนไลน์มีผลตอบรับค่อนข้างดีในยุคปัจจุบัน


ความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาตามยุคสมัยได้นำพาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของผู้คนอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่ที่โดดเด่นและจับต้องได้มากที่สุดคงจะเห็นเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี เพราะการถือกำเนิดขึ้นของเทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นต้องยอมรับว่ามีส่วนช่วยผลักดันและอำนวยความสะดวกให้กับการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้คนให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์อันทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกปัจจุบันนั่นก็คือ อินเตอร์เน็ต

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการทำธุรกิจ อินเตอร์เน็ตเข้ามามีอิทธิพลอย่างมากในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันที่น่าจับตามองคงหนีไม่พ้นการเปิดเว็บไซต์เพื่อขายสินค้าผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์

การทำธุรกิจการค้าขายผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตก็เป็น E-Commerce ที่นิยมทำกันในปัจจุบันด้วยความสะดวกสบายไม่ต้องมีหน้าร้านอะไรมากมายเราแค่ลงทุนทำเว็บไซน์ขายของ ของเราขึ้นมานั้นก็เป็นร้ายค้าของเราได้แล้ว บางคนบอกทำเว็บไม่เป็นเลยจะทำอย่างไร ต้องบอกไว้เลยทุกวันนี้เว็บไซน์เราสามารถเปิดใช้บริการง่ายมาก ๆ มีผู้ที่รับทำเว็บไซน์ขายของอยู่มากมาย

ลูกค้าสามารถเลือกชมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชม. โดยไม่ต้องเดินทาง ด้วยความที่ว่าการเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่สามารถเชื่อมทุกคนจากทุกมุมโลกให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ผ่านทางเวิล์ดไวด์เว็บ การมีเว็บไซต์เพื่อขายสินค้าจึงเป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อซื้อสินค้าให้มีมากขึ้นและยังเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าด้วย เพราะลูกค้าไม่จำเป็นต้องมาดูและเลือกซื้อสินค้าถึงบริษัทหรือหน้าร้านที่จัดจำหน่ายด้วยตนเองซึ่งเป็นการเสียเวลาพอสมควรในปัจจุบันที่มีสาเหตุจากการจราจรที่ติดขัด อีกทั้งการมีเว็บไซต์ยังสามารถทำให้ซื้อขายสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงขจัดปัญหาข้อจำกัดทางด้านเวลาออกไป

การที่จะขายสินค้าได้นั้นจะต้องมีการโปรโมทเว็บขายสินค้า และก็ต้องทำ “seo” ให้เว็บขายสินค้าของเราให้ติดอันดับของเสิร์ชเอนจิ้นด้วยแล้วคุณจะรู้ว่าการขายของในโลกออนไลน์วิเศษแค่ไหน ถ้าเราไม่เก่งในการโปรโมทเว็บเองก็สามารถใช้บริการลงโฆษณาได้

การทำธุรกิจ e-Commerce เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีเงินทุนน้อยและต้องการลดต้นทุน

e-shop keyboard key. Finger

ในยุคปัจจุบันเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอินเทอร์เน็ตได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครหลายๆคนไปแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีและอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงระบบเครือข่ายสัญญาณต่างๆ ทำให้การติดต่อสื่อสารทำได้ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก ผลจากการสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือนและสถานประกอบการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเผยแพร่ไปแล้ว พบว่า ในรอบ 5 ปีประชากรที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไปมีการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเกือบสองเท่าคือ เพิ่มจากร้อยละ 12.0 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 22.4 ในปี 2553 และสถานประกอบการทั้งใหญ่และเล็กที่มีคนทำงานตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปมีการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 10.7 ในปี 2548 เป็น ร้อยละ 16.5 ในปี 2553

วัตถุประสงค์ของการใช้อินเทอร์เน็ตมีความหลากหลายแตกต่างกันไป เช่น ค้นหาข้อมูล ติดตามข่าวสาร รับส่งข้อมูล เล่นเกมส์ เป็นต้น แต่ที่น่าสนใจ คือ มีการนำอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มช่องทาง ในการทำธุรกิจซื้อขายสินค้าและบริการผ่านออนไลน์ หรือที่เรียกว่า ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการดำเนินการอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ B2B คือ การทำธุรกิจระหว่างภาคธุรกิจด้วยกัน B2C คือ ระหว่างภาคธุรกิจกับผู้บริโภค B2G คือระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ การทำธุรกิจ e-Commerce เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีเงินทุนน้อยและต้องการลดต้นทุน เพราะเพียงแค่มีเว็บไซต์หนึ่งเว็บไซต์

ก็เปรียบเสมือนว่าคุณมีร้านค้าอยู่ทั่วโลกและสามารถเปิดการค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ไม่มีวันหยุด สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง รวมทั้งให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในอดีตการทำธุรกิจการค้านิยมกันเพียงการขายผ่านทางหน้าร้านเท่านั้น ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนสูง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการร้าน การจ้างคนดูแล หน้าร้าน ค่าเช่าพื้นที่ ข้อจำกัดทางด้านเวลาในการเปิดร้าน ทำเลที่ตั้งร้านค้า ซึ่งในการตั้งร้านค้าในรูปแบบเดิมนั้นส่วนใหญ่จะเป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้เฉพาะลูกค้าในพื้นที่นั้นเท่านั้น หลายคนคงสงสัยว่า สินค้าและบริการประเภทไหนที่ควรทำในรูปแบบของ e-Commerce คำตอบคือ สินค้าทุกชนิดสามารถนำมาทำได้ แต่ขึ้นอยู่ว่าสินค้าชนิดนั้นจะได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน การทำธุรกิจนั้นไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตามสิ่งสำคัญคือ ต้องรู้ก่อนว่าใครคือกลุ่มลูกค้าของเรา และสินค้าที่จะขายเหมาะกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหน และลูกค้ากลุ่มนั้นมีโอกาสมากน้อยในการเข้าถึงเทคโนโลยี